(เห็นเป็น Poster อย่างนี้แต่หนทางอีกยาวไกลครับ ไกลมาก)
หลายเดือน (หรืออาจเป็นปี) มานี้ ผมไม่ค่อยได้วาดลงสีแบบ ลงรายละเอียดมากมาย ซักเท่าไร ผมพบว่าช่วงหลังมานี้ ผมไม่ค่อยมีความอดทนซักเท่าไร แต่ก็วาดมาเรื่อยๆ (ถึงจะไม่บ่อยก็ตาม)
พรสวรรณ์ ถึงจะโชคดีที่มี แต่ก็ยังสู้มีพรแสวง ไม่ได้หรอกจริงไหม เพราะถึงไม่สำเร็จ แต่เราก็ได้พยายามทำมันอย่างเต็มที่ ผมพบว่าผมไม่ค่อยมีในส่วนนั้นเลย ยิ่งหน้าเศร้าเข้าไปใหญ่ที่ผมก็รู้ในจุดนั้น แล้วยังไม่เปลี่ยนแปลง ผมคงกลัวการเปลี่ยนแปลง แต่ทำไมนั้นผมก็ยังสสงสัยในตัวเองอยู่
นอกจากวาดแล้ว ยังมีส่วนของเนื้อเรื่องให้คิดอีก และเรื่องสำคัญกว่านี้อีกมาก เพราะงั้น การแบ่งเวลาถือเป็นสิ่งสำคัญอย่างมาก จะช่วยให้เราดำเนินชีวิตไปได้ราบรื่นขึ้น สำหรับผม ผมเป็นทำอะไรช้ามาก ตัดสินใจช้า ใจลอย โอ้เอ้ ใครก็ตามที่ทำอะไรได้เร็วๆ (ถ้าดีด้วยก็เยี่ยมเลย) แต่ไม่ลวกๆนะ เป็นความทักษะที่น่าอิจฉามาก เพราะ ในชีวิตคุณจะอะไรได้หลายสิ่ง หลายอย่างทีเดียว
เราเริ่มเขียนเรื่องจากส่วนไหนก่อนถึงจะดี ?
จากรูปตัวละครหรืออะไรก็ตามที่วาดเล่นในห้องเรียน จากฉากที่เราประทับใจในหนังหรือเรื่องที่เราชอบ จากภาพจินตนาการถึงฉากหรือเหตุการณ์ที่เราชอบในหัว หรือคุณอาจแค่นั้งมองเฟอร์นิเจอร์ ข้าวของรอบตัวของคุณก็ได้ (คุณต้องลึกล้ำมาก) แรงบันดาลใจเกิดขึ้นได้จากทุกสิ่ง ความคิดไม่สามารถเกิดขึ้นได้จากอากาศที่ว่างเปล่าเหมือนเวทมนต์ มันมีที่มาที่ไปเสมอ ผมคิดว่าอย่างนั้น แล้วหยิบมาใช้ ซึ่งขั้นตอนนี้ถ้าไม่ระวังมันอาจถูกมองเป็นการคัดลอกเอาได้ ซึ่งนั้นก็ขึ้นกับว่าคุณจะเปลี่ยนแนวคิด มุมมอง เนื้อเรื่องนั้น ได้มากน้อยและน่าสนใจเท่าไร
ยิ่งในปัจจุบันที่มนุษย์ ได้สร้างสรรค์สิ่งต่างๆไว้มากมายจนดูเหมือนกับว่า จะไม่มีอะไรที่เป็น ความคิดใหม่ อีกแล้ว เว้นแต่เราจะต่อยอดความคิดที่มีอยู่แล้วนะ ฟังดูเหมือนยากกว่าในสมัยอดีต แต่มันไม่ได้ต่างกันมากหรอก มันยากเพราะไม่เคยมีใครคิดมันมาก่อน
ผมยังเขียนและวาด เรื่อง Lost princess อยู่ (ผมยังไม่เบื่อหรือถอดใจหรอกนะ)
คนทั้วไปมัก นึกฉากสำคัญๆฉากหนึ่งที่เขาชอบ ซึ่งจะมาจากสิ่งที่คุณเคยเห็นมาจากที่ไหนก็ตาม (คุณต้องเคยมาจากที่ไหนแน่ๆ เพียงแต่คุณจำไม่ได้) แล้วถ้าเขาชอบความคิดนั้นจริง มันก็จะขยายเป็นเรื่องเป็นราว หรือแค่มองตัวละครที่คุณวาดบนสมุดเรียนและวาดฝันถึงเรื่องราวในชีวิตของเขาหรือเธอ การเขียนเรื่องของคุณอาจเริ่มขึ้นง่ายๆอย่างนี้ก็ได้
ผมก็เหมือนคนทั่วไป สำหรับเรื่องนี้ ผมได้แรงบันดาลใจจากฉากจบของ Rapunzel ภาพยนต์ชื่อดังของดิสนี่ ที่นางเอกกลับมาหาพ่อแม่ในที่สุด แต่ถ้ามันเป็นจุดเริ่มต้นละ เปลี่ยนชื่อเรื่องเป็น เจ้าหญิงที่หายไป แล้วชื่อตอน เจ้าหญิงกลับมาแล้ว คงตลกดี แล้วก็ลองเขียนต่อไปดู ถ้าคุณไม่เก่งเรื่องการผูกเรื่องจริง คุณก็จะพบปัญหาทันทีว่าเรื่องของคุณมันไปเรื่อยๆ ไม่ชัดเจน (ผมรู้สึกอย่างนั้น) จนทำให้รู้สึกว่าเรื่องที่เขียนอยู่นี้มันไร้ความคิดจนน่าละอาย แล้วคุณก็เลิก
พวกคุณคงอาจรู้อยู่แล้ว เรื่องของเราต้องมีแก่นเรื่อง คอนเซป แนวคิดหลัก ต้องนี้แหละที่ยากที่สุด ถ้าส่วนนี้น่าสนใจ เรื่องของคุณก็มีโอกาสได้รับความนิยมสูง แต่มันก็ไม่แน่นอน เราไม่อาจคาดเดาว่านักอ่านทั้งหลายข้างนอกนั้นจะชื่นชอบอะไรแบบไหน ความชอบนั้นไม่มีหลักเกณฑ์แน่นอน แนวเรื่องที่ลึกล้ำ อาจไม่เป็นที่นิยมก็ได้
ในส่วนองค์ประกอบนี้ถ้าคุณคิดได้จบและดีแล้วในจุดเริ่มต้น มันจะเป็นเหมือนเข็มทิศนำทางให้คุณ เป็นแนวทางในการวางโครงเรื่อง หรืออาจช่วยในการเขียนบทสนทนา มันจะทำให้คุณเห็นทิศทาง จุดประสงค์ ชัดเจนขึ้น ผมคิดว่าอย่างนั้นนะ
ถ้าคุณคิดในส่วนนี้ได้ทีหลัง ก็ไม่ได้ผิดอะไรหรอก เพียงคุณก็ต้องย้อนกลับมาดูโครงเรื่องที่เขียนไปแล้ว แล้วคุณก็จะพบจุดที่ต้องแก้มากมาย จนคุณท้อไปเลย
( ที่จริงมันก็เหมือนงานออกแบบทั่วไป ทั้งสถาปัตยกรรม หรืออะไรก็ตาม )
ลองจำกัดความเรื่องที่คุณกำลังเขียนอยู่ดูสิ
( ผมคิดว่า มันไม่ควรยาวเกินไปเพราะมันจะดูมั้ว แต่ใครจะไปรู้ละ มันอาจจะดีก็ได้นะ )